มะยงชิดเป็นผลไม้ที่ปลูกแล้วได้เก็บเกี่ยวปีละครั้ง แม้จะใช้เวลานาน แต่ก็คุ้มค่าด้วยรสชาติอร่อยและราคาที่ดี เพราะมีโอกาสรับประทานเพียงครั้งคราว ราคาจึงสูงและทำกำไรได้ดี พอเข้าสู่ช่วงปีใหม่ ผลไม้นานาชนิดก็จะเต็มสวนจริง ๆ แล้ว ผลไม้ในช่วงนี้เริ่มติดดอกออกผลมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน มะยงชิดก็เช่นเดียวกัน เมื่ออากาศเริ่มเย็นติดต่อกันเป็นเวลา 7-10 วัน ช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม ยอดมะยงชิดก็จะเริ่มเห็นดอก หลังผ่านไปประมาณ 3 เดือนนับแต่ฤดูหนาวเริ่มต้น

ก็จะได้เห็นผลผลิตที่พร้อมเก็บกินเต็มสวน บางส่วนก็มีวางขายในตลาดแถบใกล้บ้าน ทุกปี มะยงชิดจะออกดอกเป็นสองถึงสามรุ่น รุ่นแรกจะออกดอกในเดือนพฤศจิกายนและเก็บผลได้ประมาณปลายเดือนมกราคม รุ่นที่สองจะออกดอกในช่วงเดือนธันวาคมและสามารถเก็บเกี่ยวได้ปลายเดือนกุมภาพันธ์ แต่หากปีไหนอากาศเย็นนานก็จะมีรุ่นที่สาม ซึ่งดอกจะเริ่มออกต้นเดือนมกราคมและเก็บเกี่ยวในเดือนมีนาคม หากมีการปลูกหลายต้น อาจได้ผลผลิตรับประทานกันหลายเดือน เนื่องจากแต่ละต้นอาจติดดอกไม่พร้อมกัน

มะยงชิดเป็นผลไม้ที่ปลูกแล้วได้เก็บเกี่ยวปีละครั้ง แม้จะใช้เวลานาน แต่ก็คุ้มค่าด้วยรสชาติอร่อยและราคาที่ดี เพราะมีโอกาสรับประทานเพียงครั้งคราว ราคาจึงสูงและทำกำไรได้ดี

พอเข้าสู่ช่วงปีใหม่ ผลไม้นานาชนิดก็จะเต็มสวนจริง ๆ แล้ว ผลไม้ในช่วงนี้เริ่มติดดอกออกผลมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน มะยงชิดก็เช่นเดียวกัน เมื่ออากาศเริ่มเย็นติดต่อกันเป็นเวลา 7-10 วัน ช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม ยอดมะยงชิดก็จะเริ่มเห็นดอก

หลังผ่านไปประมาณ 3 เดือนนับแต่ฤดูหนาวเริ่มต้น ก็จะได้เห็นผลผลิตที่พร้อมเก็บกินเต็มสวน บางส่วนก็มีวางขายในตลาดแถบใกล้บ้าน

ทุกปี มะยงชิดจะออกดอกเป็นสองถึงสามรุ่น รุ่นแรกจะออกดอกในเดือนพฤศจิกายนและเก็บผลได้ประมาณปลายเดือนมกราคม

รุ่นที่สองจะออกดอกในช่วงเดือนธันวาคมและสามารถเก็บเกี่ยวได้ปลายเดือนกุมภาพันธ์ แต่หากปีไหนอากาศเย็นนานก็จะมีรุ่นที่สาม ซึ่งดอกจะเริ่มออกต้นเดือนมกราคมและเก็บเกี่ยวในเดือนมีนาคม

หากมีการปลูกหลายต้น อาจได้ผลผลิตรับประทานกันหลายเดือน เนื่องจากแต่ละต้นอาจติดดอกไม่พร้อมกัน

มะยงชิดนั้นจะให้ผลผลิตในแต่ละปี ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หากอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียส จะส่งผลให้ออกดอกได้ดี หรือหากมีอากาศหนาวเย็นและฝนตก ผลดอกก็จะยิ่งมากขึ้น ส่งผลให้มีผลผลิตเพิ่มขึ้นตาม การดูแลมะยงชิดให้เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์นั้นไม่ซับซ้อน

แค่ควรป้องกันไม่ให้ดินแห้งเกินไป และใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์เช่นเดียวกับไม้ผลชนิดอื่น สำหรับรคและแมงศัรูของมะยงชิด มักเกิดขึ้นในช่วงที่ออกดอก เช่น มีเพลี้ยไฟเป็นศัตรู วิธีแก้คือพ่นยาเพลี้ยไฟหลังดอกบานประมาณ 4-5 วัน จำนวน 1-2 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างการพ่นสัปดาห์ละครั้ง อาจใช้สารผสมสมุนไพรจากใบยาสูบและพริก พ่นซ้ำทุก 3 วัน/ครั้ง ประมาณ 2-3 ครั้ง

แล้วรอจนกว่าผลจะติด วิธีนี้จะช่วยป้องกันแมลงศัตรูพืชได้ มะยงชิดในภาษาอังกฤษรู้จักกันในชื่อ Marian Plum หรือ Plango เมื่อมีความต้องการในตลาดต่างประเทศสูง โดยเฉพาะในอังกฤษ จึงได้รับชื่อเรียกว่า Plango มาจากคำว่า Plum + Mango เนื่องจากรูปลักษณ์ที่คล้ายลูกพลัมแต่ใหญ่กว่า ผิวตึง และรสชาติที่คล้ายมะม่วงจากเอเชีย ความแตกต่างระหว่างมะยงชิดกับมะปรางไม่ชัดเจนเมื่อมองผิวเผิน เนื่องจากทั้งสองเป็นพืชในกลุ่มเดียวกันและออกผลในฤดูกาลเดียวกัน สายพันธุ์ที่หลากหลายทำให้มีลักษณะคล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม วิธีแยกความแตกต่างมีอยู่ หากพิจารณาลักษณะเฉพาะของทั้งสองชนิด