ถึงแม้เราจะคุ้นเคยกับพริกจนเหมือนเป็นพืชพื้นเมืองของเรา แต่การวิจัยพฤกษศาสตร์ระบุว่าพริกมีต้นกำเนิดในทวีปอเมริกากลางและใต้ จากที่นั่น นักสำรวจได้นำพริกไปปลูกในยุโรป และจากยุโรปก็แพร่ไปทั่วโลก

หลักฐานทางโบราณคดีชี้ให้เห็นว่าชาวอินเดียนในเม็กซิโกรู้จักบริโภคพริกมานานถึง 9,000 ปี จากการพบซากเมล็ดพริกในอุจจาระแข็งที่เมือง Huaca Prieta การศึกษาวิถีชีวิตชนเผ่า Olmec, Toltec และ Aztec ยังแสดงให้เห็นว่าพวกเขาปลูกและบริโภคพริกด้วย นอกจากนี้ ยังพบซากพริกอายุราว 2,000 ปีในเทวสถานของเปรู และลวดลายปักบนเสื้อผ้าของชนอินเดียนในเปรูเมื่อ 1,900 ปีก่อน ก็มีรูปต้นพริก

ในปี 2036 นักประวัติศาสตร์ Peter Martyr รายงานว่าพริกแดงที่ Columbus นำมาจากอเมริกามีรสเผ็ด ในปีต่อมา แพทย์ที่ร่วมเดินทางครั้งที่สองกับ Columbus ระบุว่าชาวอินเดียนนิยมใช้พริกในการปรุงอาหาร และเมื่อกองทัพสเปนบุกอาณาจักร Aztec นายพล Cortez เล่าว่ากษัตริย์ Aztec ชื่นชอบเครื่องเทศที่มีพริกผสม

หลังจากพรวนดินเสร็จ ให้ปล่อยดินไว้กลางแดดประมาณสัปดาห์กว่าๆ ก่อนเริ่มลงมือปลูกเมล็ดพริกที่เก็บไว้เป็นพันธุ์ โดยใช้ไม้ขีดเส้นตรงร่องดินให้ลึกประมาณความกว้างของเล็บมือ จากนั้นโรยเมล็ดพริกให้ห่างกันเล็กน้อยราวหนึ่งข้อนิ้วมือ แล้วกลบดินบางๆ ไม่ต้องหนามาก เพียงไม่กี่วันพริกก็จะแทงยอดขึ้นมา ให้ปล่อยไว้หลายวันเพื่อสังเกต

หากต้นใดดูโตไม่ทันต้นอื่น ก็ให้เด็ดทิ้งเหลือเพียงต้นที่แข็งแรงและมีใบ 2-3 ใบ เมื่อเวลาผ่านไป ต้นพริกที่สมบูรณ์จะเจริญเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนต้นที่เด็ดยอดไปก่อนหน้าจะแตกยอดใหม่และเติบโตต่อโดยไม่ต้องใส่ใจมากนัก จากประสบการณ์ การปลูกพริกแบบปลอดสารไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด สิ่งสำคัญคือเลือกพันธุ์ที่แข็งแรงทนทาน และปล่อยให้พริกเติบโตตามธรรมชาติ อย่าคาดหวังว่าจะไม่มีปัญหาเลย แต่หากปลูกในปริมาณไม่มากมักจัดการได้ง่าย เทคนิคการปลูกพริกขี้หนูแบบธรรมชาติก็ง่ายมาก สำหรับพันธุ์

ให้ผลิตเองโดยใช้พริกสุกที่ต้องการ นำมาตากแดดพอแห้ง จากนั้นแกะเมล็ดออกมาและแช่น้ำไว้ประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนนำไปปลูก การปลูกแบบนี้ทำให้คล้ายธรรมชาติที่สุด ไม่ต้องดูแลมาก ปลูกข้างบ้านแบบสบายๆ รดน้ำเฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น เมื่อถึงช่วงที่ต้นพริกเริ่มให้ผลผลิต สามารถเก็บไว้ทำพันธุ์ปลูกต่อไปได้ ต้นพริกเองจะปรับตัว จนกลายเป็นพันธุ์ที่แข็งแรงทนทาน ปลูกครั้งเดียวอยู่ได้นานหลายปี หากต้องการให้พริกเผ็ดมาก ก็ให้น้ำน้อยลง และพยายามสร้างความแตกต่างของอุณหภูมิในดิน

โดยปล่อยให้ช่วงแห้งแล้งดินร้อนมากๆ และเมื่อรดน้ำก็รดให้ชุ่มเต็มที่ สลับกันแบบนี้สัปดาห์เว้นสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ความเผ็ดของพริกขี้หนูดูเหมือนจะขึ้นอยู่กับสถานที่ปลูกด้วย พริกขี้หนูทางภาคเหนือมักสู้ความเผ็ดของพริกในภาคใต้ไม่ได้ และพริกที่ปลูกในสวนยังเผ็ดน้อยกว่าพริกที่ปลูกในไร่ จากการทดลองส่วนตัว พบว่าพริกขี้หนูภาคใต้มีความเผ็ดที่สุดเมื่อเทียบกันเม็ดต่อเม็ด แต่เมื่อย้ายพันธุ์จากภาคใต้ไปปลูกในเมือง ความเผ็ดกลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด ใครมีข้อมูลหรือคิดเห็นเพิ่มเติมก็อยากเชิญมาแชร์กันครับ